ดอยผาก้าน
“ดอยผาก้าน” มีลักษณะเป็นภูเขาสูง และมีหน้าผาทอดยาวเกือบ 3 กิโลเมตร ซึ่งมีความสวยงามและมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นอย่างมาก ภายในดอยผาก้านมีถ้ำซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว คือ ถ้ำวิมานเทวา หรือถ้ำปล่องลม เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ทางลงถ้ำเป็นแนวดิ่งค่อนข้างสูง ปากทางเข้ามีลมพัดออกมาจากถ้ำตลอดเวลา อีกทั้งยังมีภาพเขียนสีโบราณอายุกว่า 12,000 ปี และมีข้าวของเครื่องใช้โบราณตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอีกด้วย
ห่างจากตัวเมืองลำปางไปตามเส้นทางลำปาง-งาว ราวกิโลเมตรที่38 ด้านซ้ายมือเราจะเห็นที่ทำการสถานีท่องเที่ยวท่าสีตั้งอยู่ริมถนน แหล่งท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ต้องแวะเช็คอินแห่งบ้าน บ้านท่าสี ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พิกัดจุดท่องเที่ยวที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมื่อผ่านเส้นทางลำปาง – เชียงราย
ภูเขาหินปูนเด่นตระหง่านทางด้านหลังที่ทำการท่องเที่ยวบ้านท่าสีนั้น คือดอยผาก้าน คำว่า “ก้าน” แปลว่า “แพ้” ที่มาของชื่อเล่าว่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฝ่ายแพ้สงครามได้พากันมาหลบซ่อนตามหลืบถ้ำบนดอยนี้
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณดอยผาก้าน ซึ่งมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ มีอายุอยู่ในราว 6,000 ถึง 11,000 ปี รวมทั้งยังเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ต่างๆที่สวยงาม เช่น ถ้ำวิมานเทวา ถ้ำจำยาแก้ ฯลฯ
นอกจากมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์สงคราม ดอยผาก้านยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาโดยยมีถ้ำที่เปิดให้เข้าชม 2 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำจำยาแก้ เหมาะกับนังท่องเที่ยวทั่วไป เพราะเดินไม่ยาก อาศัยการปีนป่ายเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนถ้ำปล่องลมเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวแนวผจญภัย เพราะต้องลงบันไดไปเท่ากับตวามสูงของตึก 3 ชั้น ด้านโบราณคดีก็น่าสนใจไม่น้อย ที่นี่มีภาพเขียนสีโบราณบนผนังเขาหินปูน และยังค้นพบโครงกระดูกโบราณดังกล่าว เพนสะถูกนำไปเก็บรักษาที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากอยู่ในสภาพใกล้ผุพังเต็มที
การท่องเที่ยวแห่งนี้สะดวกสบาย เพาะมีจุดจอดรถใกล้กับตีนดอยผาก้าน หรือฝากรถไว้สถานี แล้วเหมารถชาวบ้านไปก็ได้ จากนั้นก็ได้เวลาเดินป่าระยะสั้นๆ ไปชมภาพเขียนสีโบราณและหลุมขุดค้นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ
ทางเดินในช่วงแรกค่อนข้างชัน ผ่านเข้าไปในป่า ซึ่งระเกะระกะไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ ภาพเขียนสีโบราณวาดด้วยสีแดง ซึ่งสันนิษฐานว่าทำมาจากแร่สีและดินเทศ ประกอบไปด้วยภาพเขียนมือ 23 ภาพ ภาพสัตว์ ได้แก่ ช้างและหมี ภาพคล้ายคน 1 ภาพ ภาพสัญลักษณ์ 4 ภาพ และต้นไม้ 1 ภาพ ในจำนวนนี้ ดูเหมือนว่าภาพช้างและภาพมือจะเห็นชัดที่สุด ส่วนบริเวณที่ค้นพบกระดูกมนุษย์โบราณที่ใกล้ๆกัน บัดนี้มีเพียงแอ่งดินว่างเปล่าเอาไว้ให้จินตนาการถึงโครงกระดุก 1 โครง เจ้าของร่างเป็นชายสูง 171 เซนติเมตร ถูกพบในสภาพนอนงอเข่าชิดอก เมื่อปี 2540 โดยนายชาญ เปียงสืบ
เมื่อแหงนมองบนหน้าผาจะเห็นต้นจันทร์ผาขึ้นอยู่มากมาย เราผ่านบริเวณผาเงิบ ลักษณะเป็นเพิงถ้ำเล็กๆ ใกล้กันมีบ่อน้ำทิพย์จำยาแก้ ลักษณะเป็นตาน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง ลึกราว 3 – 4 เมตร เล่ากันว่า เคยมีคนเห็นสัตว์ปาเจ็บป่วยมากินน้ำในบ่อแห่งนี้แล้วกลับหายเป็นปกติ หลายคนจึงเชื่อว่านี้คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
บริเวณศาลาพักเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปยังถ้ำจำยาแก้และถ้ำปล่องลม ถ้ำจำยาก้มี 3 ชั้น ได้บรรยากาศของการผจญภัยเล็กๆ โดยมีทางไปยังชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ได้อย่างสะดวก แต่ชั้นล่างสุดต้องปีนบันไดไม้ไผ่ลงไปจากชั้นที่ 2 ผ่านชะง่อนผาชั้น สัญนิฐานว่าชั้นล่างนั้น เป็นที่หยุดพักของคนสมัยโบราณ ส่วนใครที่เลือกไปถ้ำปล่องลมคงได้ผจญภัยอย่างตื่นเต้น เพราะต้องปีนบันไดไม้ไผ่ลงไปเท่าความสูงของตึก 3 ชั้นท่ามกลางความสูงชันและมืดมิด เมื่อลงไปถึงด้านล่างจึงจะพบโถงถ้ำที่มีผลึกแคลไซต์ส่องประกายระยิบระยับ
เส้นทางนี้จะใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นเส้นทางสั้นๆ ที่ได้ใจความทั้งก้านประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา โบราณคดี และ พฤกษศาสตร์
แผนที่ : https://goo.gl/maps/VwzB4vZYTNNZUztR9
แหล่งที่มา : ปักหมุดบ้านท่าสี ท่องป่า ปีนเขา ชมภาพหมื่นปี.หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์.จาก https://www.lannapost.net/2019/06/blog-post_22.html